5 ข้อควรระวังแอร์ในหน้าฝน
เมื่อเข้าหน้าฝนแล้วต้องเจอสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย ทั้งอากาศร้อน ฝนตกหนัก ต้องเจอกับอากาศที่มีความชื้นค่อนข้างสูงยิ่งต้องคอยเช็กและดูแลเครื่องใช้ไฟฟ้ามากเป็นพิเศษ แอร์หรือเครื่องปรับอาการก็ไม่ควรที่จะละเลย เราจึงนำวิธีเช็กแอร์ในหน้าฝนมาฝาก เพื่อให้แอร์ของคุณใช้งานได้อย่างไม่มีปัญหาและยืดระยะเวลาใช้งานให้นานมากยิ่งขึ้น 1.ติดตั้งสายดินทุกครั้ง สิ่งที่ควรระวังเครื่องใช้ไฟฟ้าในหน้าฝนคือความปลอดภัยเป็นอันดับแรก เนื่องจากมีความชื้นอยู่มาก ควรเช็กแอร์ของท่านว่ามีการติดตั้งสายดินหรือไม่ ตรวจเช็คกระแสไฟฟ้าจากสายไฟฟ้าที่ต่อเข้ากับเครื่องปรับอากาศว่ามีการรั่วหรือไม่ เพื่อป้องกันอันตรายจากไฟฟ้ารั่วที่จะส่งผลต่อชีวิตของท่านได้ 2. ปรับอุณหภูมิให้เหมาะสม ในช่วงหน้าฝนอุณหภูมิอากาศด้านนอกลดลงทำให้อากาศเย็นสบาย หากต้องการปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศควรพิจารณาจากอุณหภูมิของร่างกาย ปรับเพิ่มหรือลดลงทีละองศา ไม่ควรตั้งอุณหภูมิที่ต่ำเกินไปเพื่อเป็นผลดีต่อสุขภาพ 3. ตำแหน่งการวางคอมเพลสเซอร์ ควรติดตั้งคอมเพลสเซอร์อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม เพื่อป้องกันน้ำท่วมหรือสัตว์ต่าง ๆ เข้าไปอยู่ในคอมเพรสเซอร์ หากติดตั้งคอมเพลสเซอร์แอร์ต่ำจนเกินไป เมื่อเกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมอาจส่งผลให้คอมเพลสเซอร์แอร์มีปัญหาและดับได้ 4. ไฟตก ไฟดับ ต้องดึงเบรกเกอร์ลง เมื่อฝนตกหนัก แอร์ดับขณะทำงาน ควรทำการดึงเบรกเกอร์แอร์ลงเพื่อป้องกันการจ่ายไฟเกิน เพราะอาจทำให้เกิดความเสียหายกับอุปกรณ์ภายในตัวแอร์ได้ 5. ตรวจเช็กกลิ่นอับ กลิ่นอับภายในบ้านมักเกิดขึ้นในหน้าฝน สาเหตุหลักเกิดจากความชื้นในอากาศ ดังนั้นควรที่จะเช็คทำความสะอาดแผ่นกรองฝุ่นอย่างสม่ำเสมอ และใช้งานระบบ Self Cleaning ที่ช่วยเป่าลมไล่ความชื้นหลังจากการใช้งานเพื่อลดปัญหาความชื้นสะสมที่เป็นสาเหตุของเชื้อราและกลิ่นอับ เพื่อช่วยรักษาความสะอาดให้ดีต่อสุขภาพและยืดอายุการใช้งานของเครื่องปรับอากาศ
เปิดแอร์ให้เย็นฉ่ำจะต้องปรับยังไงบ้าง แคเรียร์มีคำตอบ!!
เคยสงสัยกันไหมว่าทั้ง ๆ ที่ตั้งอุณภูมิแอร์สูงกว่า 25 องศาแต่ทำไมอุณหภูมิภายในห้องนั้นยังรู้สึกเย็นอยู่ หรือบางครั้งเครื่องปรับอากาศในห้องของเรานั้นก็กลับไม่มีความเย็นออกมาเลย มีเพียงแต่ลมที่ปล่อยออกมา จนทำให้หลาย ๆ คนต่างมีความสงสัยว่าเอ๊ะแอร์ของเราเสียหรือเปล่า ? แต่อย่าพึ่งตกใจไป จงตั้งสติแล้วหยิบรีโมทแอร์ขึ้นมาเช็กดูว่ามีสัญลักษณ์อะไรบ้างปรากฏที่หน้าจอรีโมทแอร์ของคุณ และเจ้าแอร์ของคุณอยู่ในโหมดไหน แต่อันที่จริงเราต้องเปิดแอร์โหมดไหนถึงจะตรงกับความต้องการมากที่สุดและแอร์โหมดไหนเหมาะกับช่วงไหนบ้าง วันนี้แคเรียร์หาคำตอบมาให้แล้ว มาทำความรู้จักไปพร้อม ๆ กันกับบทความด้านล่างนี้ วิธีเช็กเครื่องปรับอากาศของคุณว่าอยู่ในโหมดใด ก่อนอื่นจะต้องเช็กเสียก่อนว่าเจ้าแอร์ของคุณอยู่ในโหมดการทำงานไหนอยู่ ซึ่งวิธีการง่าย ๆ ให้กดปุ่มที่เขียนคำว่า “Mode” เมื่อเรากดปุ่มนี้ 1 ครั้งสัญลักษณ์บนหน้าจอก็จะเปลี่ยนตามไปทีละสัญลักษณ์ ซึ่งโดยปกติแล้วสัญลักษณ์ของโหมดต่าง ๆ จะมีทั้งหมด 4 สัญลักษณ์ ได้แก่ สัญลักษณ์รูปหิมะ สัญลักษณ์รูปหยดน้ำ สัญลักษณ์รูปใบพัดลม และสัญลักษณ์รูปตัว A ซึ่งสัญลักษณ์เหล่านี้จะแทนโหมดต่าง ๆ ของแอร์ ถ้าสัญลักษณ์ไหนขึ้นอยู่ก็หมายความว่าแอร์กำลังทำงานในโหมดนั้น ๆ อยู่ วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับโหมดต่าง ๆ ของแอร์ที่จะทำให้เข้าใจการปรับแอร์ได้โดนใจเราที่สุด Cool mode : ทำงานโดยการปรับอุณหภูมิห้องให้ตรงกับอุณหภูมิบนรีโมทแอร์ สามารถปรับความเร็วพัดลมได้ เหมาะกับอากาศร้อน ๆ […]
สาเหตุของ “แอร์มีกลิ่นอับ” พร้อมวิธีรับมือ
แอร์มีกลิ่นอับ เป็นปัญหากวนใจของใครหลาย ๆ คน เพราะบ่อยครั้งที่เราตั้งใจจะเปิดแอร์เย็น ๆ รับอากาศสดชื่น สูดลมหายใจได้แบบเต็มปอด แต่กลับต้องมาเจอกลิ่นแอร์ที่ไม่พึงประสงค์ออกมาแทน ทำให้ขัดจังหวะบรรยากาศการพักผ่อนจนน่าหงุดหงิดใจ แล้วสาเหตุที่แอร์ส่งกลิ่นอับนี้เกิดขึ้นจากอะไร ต้องแก้ไขแบบไหน วันนี้แคเรียร์ชวนทุกคนมาไขข้อสงสัยและหาคำตอบไปพร้อม ๆ กัน สาเหตุที่ทำให้แอร์มีกลิ่น 1.ความชื้นภายในห้อง หลัก ๆ แล้วการที่แอร์ส่งกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ออกมานั้น สาเหตุเกิดจากความชื้นที่ไม่สามารถระบายออกมาจากตัวแอร์ได้หมด ทำให้ค้างอยู่ภายในแอร์เป็นเวลานาน จนเกิดเป็นเชื้อราสะสม และส่งกลิ่นเหม็นอับออกมา ซึ่งการที่ห้องมีความชื้นสูงจนส่งผลให้แอร์ต้องดูดความชื้นเข้าไปมากกว่าปกตินั้น อาจมาจากหลายปัจจัย เช่น การปลูกต้นไม้ไว้ในห้องเยอะเกินไป ในบ้านมีตู้เลี้ยงปลา หรือมีภาชนะที่ใส่น้ำดื่มสำหรับสัตว์เลี้ยง เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ ล้วนแต่เป็นสาเหตุที่ทำให้ภายในห้องมีความชื้นสูงได้ และทำให้แอร์ของคุณทำงานหนักมากขึ้นอีกด้วย 2.การอุดตันของสิ่งสกปรก โดยปกติแล้วแอร์จะมีการกรองฝุ่น กรองเชื้อโรคต่าง ๆ อยู่เสมอ เมื่อมีการใช้งานแอร์ในระยะที่นานเข้า โดยเราไม่มีการล้างทำความสะอาดเลย ทำให้สิ่งสกปรก ฝุ่นและเชื้อโรคต่าง ๆ ไปอุดตันตามแผ่นกรองหรือฟิลเตอร์ คอยล์เย็น และถาดรองน้ำทิ้ง สะสมจนกลายเป็นแหล่งรวมของแบคทีเรีย และเชื้อรา ท้ายที่สุดก็ส่งผลให้เกิดกลิ่นเหม็นเปรี้ยว หรือกลิ่นอับชื้นออกมาได้ ไม่เพียงแค่กลิ่นที่มากวนใจ แต่หากปล่อยไว้นานไป อาจส่งผลต่อสุขภาพได้ด้วยเช่นกัน 3.ท่อ/ถาดน้ำทิ้งติดตั้งและระบายได้ไม่ดี […]
แคเรียร์ชวนไขข้อสงสัย ทำไม “แอร์ไม่เย็น”
ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว ร้อนจนไม่อยากออกไปไหน อยากนอนแช่ตัวอยู่บ้าน เปิดแอร์เย็นฉ่ำอย่างสบายใจ แต่บ่อยครั้งที่เปิดไปแล้ว “แอร์ไม่เย็น มีแต่ลม” เป็นปัญหาที่หลายคนก็คงเคยพบเจออยู่บ่อย ๆ และไม่รู้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร แม้จะเปิดแอร์ทิ้งไว้เป็นชั่วโมง เพื่อให้แอร์ได้ทำงานอย่างเต็มที่ แต่สุดท้ายแล้วกลับมีเพียงแค่ลมออกมาเท่านั้น ไม่ได้มีความเย็นสดชื่นแต่อย่างใด แล้วแบบนี้ต้องทำยังไง? สาเหตุเกิดจากอะไร? วันนี้แคเรียร์มีวิธีเช็กสาเหตุเบื้องต้นง่าย ๆ ไปดูพร้อมกันได้เลย 1. BTU ของแอร์ไม่เหมาะสมกับขนาดห้อง แอร์ไม่เย็น มีแต่ลม ทั้ง ๆ ที่พึ่งติดตั้งไป สิ่งแรกที่ควรสงสัยเลยคือ เราเลือกขนาด BTU ของแอร์เหมาะสมกับขนาดของห้องที่ติดตั้งหรือเปล่า เพราะหากขนาด BTU กับห้องไม่เหมาะสมกันจะทำให้แอร์เย็นไม่ทั่วถึง หลายคนอาจคิดว่า ห้องไม่ได้ใหญ่มากติดแอร์ขนาดเล็กก็พอ แต่ความจริงแล้วหากขนาด BTU ต่ำเกินไป คอมเพรสเซอร์ก็จะทำงานตลอดเวลา หรือหาก BTU สูกเกินไป คอมเพรสเซอร์จะตัดบ่อย ยังไม่ทันเย็นก็ตัดแล้ว จึงทำให้แอร์ต้องทำงานหนักขึ้น เย็นช้า แถมยังกินไฟมากกว่าเดิม หากสงสัยว่า BTU แต่ละขนาดเหมาะกับห้องไซส์ไหน คลิกเลย 2. ตั้งโหมดทำความเย็นผิด บางทีสาเหตุที่แอร์ไม่เย็น […]
How to ดูแลแอร์ในช่วงหน้าฝน
เมื่อเข้าสู่ฤดูฝนหลายคนคงเป็นกังวลว่าฝนจะทำร้ายแอร์ของเรา แน่นอนว่าเครื่องใช้ไฟฟ้ามักมีปัญหากับหน้าฝน โดยเฉพาะแอร์ เพราะหน้าฝนเต็มไปด้วยสภาพอากาศที่มีความชื้นสูง แอร์จึงต้องได้รับการดูแลมากเป็นพิเศษและควรดูแลอย่างถูกวิธี ไม่เช่นนั้นจะทำให้แอร์ของเรา เกิดการเสื่อมสภาพได้ง่าย หากแอร์เสียหายจะกลายเป็นภาระค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็นตามมา วันนี้แคเรียร์จึงอยากให้ทุกคนหันมาใส่ใจดูแลแอร์ในบ้านของตัวเอง ด้วย 4 วิธีง่าย ๆ เพื่อให้แอร์ของคุณมีอายุการใช้งานที่นานมากขึ้น 1. รักษาอุณหภูมิห้องขณะเปิดแอร์ ปรับอุณหภูมิให้เข้ากับช่วงเวลาขณะที่ฝนตก โดยการลดอุณหภูมิให้ต่ำกว่าสภาพอากาศภายนอกห้อง 1-2 องศา ถึงแม้อากาศจะเย็นแล้วก็ไม่ควรปรับอุณหภูมิให้สูงกว่า หรือเท่ากับสภาพอากาศภายนอก เพราะระบบทำความเย็นจะไม่ทำงาน ตามเงื่อนไขความแตกต่างของอุณหภูมิ นอกจากนี้การเปิดใช้ Dry Mode ก็เป็นสิ่งจำเป็นเช่นกัน เพราะฟังก์ชัน Dry Mode จะรักษาระดับความชื้นให้เหมาะสม และช่วยปรับความเย็นที่พอเหมาะให้กับอากาศภายในห้องในเวลาที่ฝนตก 2. ตรวจสอบระบบการทำงานของแอร์ หมั่นตรวจเช็กคุณภาพอุปกรณ์ต่าง ๆ ของแอร์ให้พร้อมสำหรับการใช้งานเสมอ โดยเฉพาะในช่วงที่ฝนตกบ่อย อากาศมักมีความชื้นสูง อาจส่งผลต่ออุปกรณ์การทำงานของแอร์ ดังนั้นให้หมั่นตรวจเช็กกระแสไฟฟ้าว่ามีการรั่วไหลของสายไฟหรือไม่ เช่น ตรวจสอบสภาพของคอยล์ร้อน โดยสังเกตพลาสติกฝาปิดว่ามีการผุพังหรือไม่ หากเกิดการผุกร่อนหรือมีรอยร้าวให้แก้ไข เพราะไม่เช่นนั้นจะทำให้น้ำซึ่มผ่านเข้าไปได้ และก่อให้เกิดความเสียหายตามมา อีกทั้งเครื่องคอมเพรสเซอร์ ไม่ควรวางไว้ระดับต่ำจนเกินไป เพราะเมื่อฝนตกหนักจะเสี่ยงกับน้ำท่วมได้ง่าย หรืออาจมีสัตว์เลื้อนคลานเข้าไปอาศัยอยู่ 3. ทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศ หน้าฝนแบบนี้คงหนีไม่พ้นกับความชื้นภายในห้องและหากแผ่นกรองของแอร์ […]
เตรียมแอร์ยังไงเมื่อบ้านเสี่ยงน้ำท่วม !?
ฤดูฝนมาเยือนทีไร เป็นอันต้องตื่นเต้นทุกทีเพราะไม่รู้ว่าฝนตกแรงติดต่อกันแบบนี้จะทำให้น้ำท่วมหรือไม่ ยิ่งถ้าหากเป็นพื้นที่ที่เสี่ยงจะเกิดอุทกภัยได้ง่าย ยิ่งน่าเป็นห่วงเข้าเป็นใหญ่ วันนี้แคเรียร์มีวิธีเตรียมแอร์ให้พร้อมรับมือเมื่อต้องเจอเหตุการณ์น้ำท่วม ให้ไม่เกิดความเสียหายและกลับมาใช้งานได้เหมือนเดิมมาฝากกัน เครื่องปรับอากาศ โดยทั่วไปแล้วตัวแอร์ที่อยู่ภายในบ้าน จะถูกติดบนตำแหน่งสูงอยู่แล้ว หากน้ำไม่ได้ท่วมสูง เพียงแค่สับสวิตช์เครื่องปรับอากาศลง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากไฟดูด เพราะโอกาสที่น้ำจะท่วมถึงค่อนข้างน้อย คอมเพรสเซอร์ ดูให้แน่ใจอีกครั้งว่าสับสวิตช์เรียบร้อยแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้มีกระแสไฟฟ้าแล่นเข้าสู่ตัวเครื่อง จากนั้นให้นำ พลาสติกหรือผ้าใบที่สามารถกันน้ำได้ มาคลุมที่ตัวเครื่อง ให้มิดชิดเพื่อไม่ให้น้ำไหลเข้าไปยังตัวเครื่อง ที่สำคัญอย่าลืมเช็กให้ชัวร์ว่าผ้าใบที่นำมาใช้ไม่มีจุดไหนที่รั่ว ในกรณีที่เสี่ยงน้ำท่วมสูง แต่ถ้าหากอยู่ในพื้นที่ที่น้ำท่วมสูงทุก ๆ ปี หรือตำแหน่งที่ติดแอร์ค่อนข้างต่ำและมีสิทธิ์โดนน้ำ ควรเตรียมความพร้อมด้วยการ เรียกช่างผู้ชำนาญมาถอดเครื่องปรับอากาศทั้งตัวแอร์ในบ้านและคอมเพรสเซอร์ออก แล้วนำไปเก็บในที่ที่ปลอดภัยจากน้ำ ที่สำคัญหากเกิดน้ำท่วมเฉียบพลัน ให้รีบถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด และทำการสับสวิตช์ลงให้หมด เพื่อป้องกันกระแสไฟฟ้ารั่วทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ เมื่อจัดการเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านเรียบร้อยแล้ว ให้รีบอพยพโดยเร็ว เมื่อน้ำลดแล้วอย่าพึ่งเปิดใช้งานหรือเปิดสวิตช์เครื่องใช้ไฟฟ้าทันที (ในกรณีที่น้ำท่วมถึงสิ่งของ) ให้ไล่ความชื้นหรือน้ำออกไปก่อน ด้วยการนำเครื่องใช้ไฟฟ้าไปตากแดด ในกรณีคอมเพรสเซอร์ให้ถอดที่คลุมออก นำที่เป่าลมมาเป่าให้แห้งและปล่อยไว้สัก 2-3 วัน ให้แห้งสนิทจริง ๆ แล้วค่อยเปิดการใช้งาน อีกปัญหาที่มาพร้อมกับฝนตกก็คือ ไฟกระชาก ไฟเกิน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เครื่องปรับอากาศเสียหายได้ แต่ไม่ต้องกลัวอีกต่อไปเพราะในปัจจุบันแคเรียร์เองก็มีมีเทคโนโลยีที่ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันแผงไฟฟ้าลัดวงจรโดยเฉพาะอย่าง ANTI-SHOCK พร้อมเปิดใช้งานเครื่องใหม่เองอัตโนมัติเมื่อไฟดับอย่าง AUTO-RESTART อีกด้วยนะ
6 วิธีรับมือปัญหากลิ่นเหม็นในบ้าน ง่ายนิดเดียว
เรียกได้ว่าเรื่องของกลิ่นภายในบ้านเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่กวนใจของใครหลายคน จนเซ็งไปตาม ๆ กัน เพราะทำยังไงก็ไม่หอมซักที ยิ่งกลับบ้านมาเหนื่อย ๆ ก็ยิ่งอยากจะสัมผัสกับกลิ่นและสภาพแวดล้อมที่น่าพักผ่อน วันนี้แคเรียร์จะมาบอกวิธีที่ทำให้ทุกคนไม่ต้องทนอยู่กับกลิ่นเหล่านี้อีกต่อไป กับ 6 วิธีรับมือปัญหากลิ่นเหม็นในบ้านที่สามารถทำตามได้ง่าย ๆ เปิดหน้าต่างระบายอากาศ เป็นวิธีเบสิคที่ทำได้ง่ายๆ การเปิดหน้าต่างจะช่วยให้อากาศถ่ายเท ทำให้ไร้กลิ่นกวนใจ ถ้าห้องนั้นไม่มีหน้าต่าง สามารถแก้ปัญหาด้วยการติดพัดลมดูดอากาศก็ช่วยได้ หมั่นทำความสะอาดบ้าน การทำความสะอาดบ้าน ก็เป็นอีกวิธีง่ายๆ ที่ช่วยทำให้ปัญหาเรื่องกลิ่นหายไป เราอาจเผลอทำเศษอาหารตกบนพื้นโดยที่เราไม่รู้ตัว เฟอร์นิเจอร์หรือเครื่องนอนที่ไม่ได้ทำความสะอาด ก็ส่งผลให้ห้องของเรามีกลิ่นได้ ดังนั้นควรหมั่นทำความสะอาดบ้าน หรือนำผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม ไปทำความสะอาดด้วย นำขยะไปทิ้ง กลิ่นขยะเป็นฝันร้ายของใครหลายคน คงไม่ต้องบรรยายว่าการที่บ้านของเรามีกลิ่นจากขยะจะแย่แค่ไหนควรนำขยะไปทิ้งโดยผูกปากถุงให้แน่น หรือเลือกใช้ถังขยะที่มีฝาปิด นอกจากจะช่วยเรื่องของกลิ่นแล้วยังไม่เป็นแหล่งกระจายเชื้อโรคอีกด้วย ที่สำคัญไม่ควรทิ้งขยะที่เป็นของสดทิ้งไว้เกิน 1 วัน ควรรีบนำไปทิ้งนอกบ้านให้เร็วที่สุด ใช้ถ่านดับกลิ่น ของถูกและดีที่ทุกคนต้องลอง อีกทั้งยังหาง่ายอีกด้วย แนะนำให้ลองวางถ่านไว้ยังจุดต่างๆ ของบ้าน (อย่าลืมหาภาชนะมาใส่) จะทำให้กลิ่นไม่พึงประสงค์หายไป หรือหากตู้เย็นหรือตู้เสื้อผ้าใครมีกลิ่นอับ ถ่านก็ช่วยได เพิ่มกลิ่นหอม ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของ สเปรย์น้ำหอมปรับอากาศ เทียนหอม การบูร น้ำมันหอมระเหย […]
กลิ่นอับจากแอร์ส่งผลต่อสุขภาพอย่างไร?
ด้วยอากาศเมืองไทยที่ร้อนถึงร้อนมากทำให้แอร์กลายเป็นอีกหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่หลาย ๆ คนขาดไม่ได้ แต่แอร์ที่ให้ความเย็นนั้นควรได้รับการทำความสะอาดที่เหมาะสมเช่นกัน เพราะแอร์หรืออากาศที่อยู่ภายในบ้านสามารถส่งผลต่อสุขภาพร่างกายมากกว่าที่เราคิด หลายครั้งที่เมื่อเราเปิดแอร์ เราจะได้กลิ่นอับแปลก ๆ ออกมาจากแอร์ และค่อย ๆ จางหายไป เลยไม่ได้คิดอะไรมาก แต่รู้ไม่ว่ากลิ่นอับจากแอร์เหล่านั้น ส่งผลต่อสุขภาพของเราโดยตรงมากกว่าที่คิด เพราะกลิ่นอับมีที่มาจากความชื้นภายในที่สะสมเป็นต้นเหตุของการสะสมเชื้อราและเชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ และอาจเป็นสาเหตุให้เชื้อโรคเจริญเติบโต ซึ่งเชื้อโรคเหล่านี้นี่แหละ ที่สามารถทำให้เกิดความเสี่ยงเป็นโรคทางเดินหายใจ โรคภูมิแพ้ หืดหอบ ผดผื่นคัน และโรคปอดอักเสบขึ้นได้ หากเราหายใจเอาละอองความชื้นที่มีเชื้อเหล่านี้ปะปนอยู่เข้าไปปะปนสะสมอยู่ในร่างกายเป็นเวลานาน ซึ่งเป็นผลเสียต่อร่างกายในระยะยาวอีกด้วย ดังนั้นการรักษาความสะอาดแอร์อย่างสม่ำเสมอจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่ง นอกจากการล้างแอร์และถอดล้างฟิลเตอร์แล้วที่ต้องทำเป็นประจำแล้ว แคเรียร์ยังออกแบบระบบ SELF CLEANING อีกหนึ่งตัวช่วยในการยับยั้งการสะสมความชื้นในบริเวณของคอยล์เย็น หนึ่งในต้นเหตุของการเกิดเชื้อราหรือกลิ่นอับได้ SELF CLEANING จะช่วยให้อากาศภายในบ้านสะอาดมากขึ้น ให้คุณสูดหายใจได้เต็มปอด ไม่ต้องกังวลทั้งกลิ่นและสุขภาพ
รู้ทันน้ำยาแอร์ สารพันปัญหาที่คนติดแอร์ต้องเจอ
เรื่องของ “น้ำยาแอร์” เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ทุกบ้านต้องเคยประสบปัญหาอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็น น้ำยาแอร์หมด เติมน้ำยาแอร์ และอีกสารพัดสิ่ง แล้วน้ำยาแอร์คืออะไร? สำคัญแค่ไหน ต้องเติมบ่อยเท่าไหร่ มีน้ำยาแอร์อะไรบ้าง วันนี้แคเรียร์มีคำตอบมาให้แล้ว น้ำยาแอร์คืออะไร น้ำยาแอร์เป็นสารทำความเย็นชนิดหนึ่ง ทำงานด้วยการอัดสารความเย็นให้กลายเป็นไอเพื่อเป็นตัวสร้างความเย็นให้กับเครื่องปรับอากาศ ชนิดของน้ำยาแอร์ น้ำยาแอร์จะมีให้เลือกหลากหลายตามการใช้งาน ในบทความนี้จะขอพูดถึงน้ำยาแอร์สำหรับเครื่องปรับอากาศภายในบ้าน ซึ่งในปัจจุบันน้ำยาแอร์สำหรับเครื่องปรับอากาศภายในบ้านที่นิยมจะมี 3 ชนิด ดังนี้ 1. น้ำยาแอร์ R22 2. น้ำยาแอร์ R410A 3. น้ำยาแอร์ R32 ซึ่งในแง่ของราคา ทั้ง 3 ชนิดบวกลบแล้วแทบไม่ต่างกัน แต่ในแง่ของประสิทธิภาพในการทำความเย็นจะต้องยกให้น้ำยาแอร์ชนิด R32 เพราะนอกจากจากจะมีประสิทธิภาพในการทำความเย็นที่มีคุณภาพดีแล้วยังเป็นมิตรต่อชั้นบรรยากาศอีกด้วย น้ำยาแอร์ แท้จริงแล้วไม่ต้องเติมบ่อย หากใครเคยมีประสบการณ์เมื่อเรียกช่างมาล้างแอร์ทีไร ต้องเสียเงินเพิ่มเพราะว่าน้ำยาแอร์หมด ต้องเติมน้ำยาแอร์อยู่ทุกครั้ง ให้สันนิษฐานไว้เลยว่าคุณอาจจะต้องเสียเงินโดยใช่เหตุ เพราะโดยปกติแล้วหากเครื่องปรับอากาศของคุณได้รับการติดตั้งที่ถูกต้อง ไม่ว่าจะผ่านไป 5 ปี หรือ 10 ปี น้ำยาแอร์ก็ไม่มีทางหมด ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเติมหากแอร์ยังเย็นอยู่ เพราะน้ำยาแอร์ที่อยู่ในเครื่องปรับอากาศของเรานั้นมีการหมุนเวียนเป็นระบบปิด ไม่มีทางหมดแน่นอน […]